กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
้้้้333333333333333333333333333333333333333
้้้้333333333333333333333333333333333333333
ดีใจที่ได้เรียนที่นี้ เป็นเวลา 6 ปีแล้วรักและศัทราในสถาบันแห่งนี้………..
มาตรฐาน ง2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสิ่งของเครื่องใช้ หรือวิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมในการจัดการเทคโนโลยีที่ยั่งยืน
มาตรฐาน ง 2.1 ม.3/1 อธิบายระดับของเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 3.1เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูล การเรียนรู้ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การทำงานและอาชีพ อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีคุณธรรม
2.1 เทคโนโลยีเป็นกระบวนการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ และระบบความรู้ ความเข้าใจต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการของมนุษย์
2.2 เทคโนโลยีมีหลายระดับจะต้องเลือกใช้อย่างชาญฉลาด และเหมาะสมตามหลักการเลือกใช้เทคโนโลยี
2.3 กระบวนการเทคโนโลยีประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ที่ใช้ในการแก้ปัญหา ช่วยให้ทำงานอย่าง เป็นระบบ มีลำดับขั้นตอน และเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการออกแบบเทคโนโลยี
2.4 การสร้างชิ้นงานป้ายอัจฉริยะจะต้องปฏิบัติตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างปลอดภัย ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดเป็นภาพฉาย เพื่อนำไปสร้างเป็นต้นแบบชิ้นงาน
2.5 การออกแบบเทคโนโลยีต้องใช้ระดับของเทคโนโลยีสร้างสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างปลอดภัย ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดเป็นภาพฉาย เพื่อนำไปสู่การสร้างต้นแบบและแบบจำลองของสิ่งของเครื่องใช้ หรือถ่ายทอดความคิดของวิธีการเป็นแบบจำลองความคิดและการรายงานผล
สัปดาห์ที่ | คาบที่ | เนื้อหา/หัวข้อ | จุดประสงค์การเรียนรู้ |
1 | 1-2 | ความหมายและประโยชน์ของเทคโนโลยี | 1. นักเรียนสามารถบอกความหมายและประโยชน์ของเทคโนโลยีได้ |
2 | 3-4 | องค์ประกอบของระบบสารสนเทคโนโลยี
|
1. อธิบายองค์ประกอบของเทคโนโลยีได้อย่างถูกต้อง
2. สามารถแยกแยะองค์ประกอบของเทคโนโลยีได้ถูกต้อง 3. นักเรียนรู้จักหน้าที่และวิธีการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างถูกต้อง |
3 | 5-6 | ระดับของเทคโนโลยี และการเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด | 1. อธิบายระดับเทคโนโลยีได้
2. สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม 3.เห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ |
4 | 7-8 | การสร้างสิ่งของเครื่องใช้ ด้วยกระบวนการเทคโนโลยี | 1. อธิบายองค์ประกอบของกระบวนการเทคโนโลยีได้อย่างถูกต้อง
2. อธิบายประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้กระบวนการเทคโนโลยีได้อย่างถูกต้อง 3. อธิบายกระบวนการออกแบบเทคโนโลยีได้อย่างถูกต้อง 4. สามารถออกแบบชิ้นงานด้วยกระบวนการเทคโนโลยีได้ |
5 | 9-10 | ตัวอย่างการสร้างสิ่งของเครื่องใช้ ด้วยกระบวนการเทคโนโลยี
|
วิธีการ | เครื่องมือ | เกณฑ์ |
ตรวจใบงาน | ใบงาน 1 ความหมายและประโยชน์ของเทคโนโลยี
ใบงาน 2 องค์ประกอบของระบบเทคโนโลยี ใบงาน 3วิวัฒนาการและระดับของเทคโนโลยี ใบงาน4การสร้างสิ่งของเครื่องใช้ด้วยกระบวนการเทคโนโลยี ใบงาน 5ตัวอย่างการสร้างสิ่งของเครื่องใช้ด้วยกระบวนการเทคโนโลยี |
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ |
การตอบคำถาม | กระทู้คำถามในแต่ละสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 คำถาม | ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ |
สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล | แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล | ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ |
สังเกตความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน |
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ | ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ |
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน | แบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน | (ประเมินตามสภาพจริง) |
บทเรียนออนไลน์ เรื่อง ระบบสารสนเทศและการสื่อสาร จัดทำขึ้นเพื่อการเรียนการสอน เป็นบทเรียนที่นักเรียน ใช้ศึกษาด้วยความสามารถของนักเรียนเอง ขอให้นักเรียนอ่านคำแนะนำ และทำตามคำแนะนำแต่ละขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบแล้วนักเรียนจะได้รับความรู้อย่างครบถ้วน ขอให้นักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน
การทดสอบขั้นนี้เป็นการวัดความรู้เดิมของนักเรียน ถ้านักเรียนตอบไม่ได้ไม่ควรเดาเพราะคะแนนที่ได้บอกเพียงว่าก่อนเรียนนักเรียนมีความรู้เท่าใด เท่านั้นเอง
2. ศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้
3. ศึกษาเกณฑ์การวัดผล/การส่งงาน
4. ศึกษาบทเรียนตามหัวข้อขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
5. ศึกษาบทเรียนตามหัวข้อขั้นสอน
6. ศึกษาบทเรียนตามหัวข้อขั้นสรุป
7. ศึกษาบทเรียนตามหัวข้อขั้นฝึกฝน
8. ศึกษาบทเรียนตามหัวข้อขั้นนำไปใช้
9. ทำแบบทดสอบหลังเรียน
การทดสอบหลังเรียนเป็นการวัดความเข้าใจบทเรียนทั้งหมด นักเรียนต้องตั้งใจและพยายามทำจนสุดความสามารถ เพราะการสอบครั้งนี้จะทำให้นักเรียนทราบว่านักเรียนได้เรียนรู้บทเรียนทั้งหมดหรือไม่ ถ้านักเรียนได้คะแนนต่ำกว่าที่กำหนด ขอให้นักเรียนทำการศึกษาบทเรียนใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ
10. ศึกษาแหล่งเรียนรู้
การถ่ายทอดความคิดที่เป็นวิธีการ เป็นการถ่ายทอดความคิดที่เป็นวิธีการหรือลำดับขั้นตอนที่ไม่เป็นชิ้นงาน เพื่อแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการตามที่ออกแบบไว้ ซึ่งการถ่ายทอดความคิดมีหลายรูปแบบ เช่น ภาพร่าง 2 มิติ ภาพร่าง 3 มิติ ผังงาน แบบจำลองความคิด
เป็นภาพที่ถ่ายทอดแนวคิดหรือวิธีการแก้ปัญหาเพียง 2 มิติ ประกอบด้วยด้านกว้างและ ด้านยาว
ภาพร่าง 2 มิติ
เป็นภาพที่นำเสนอรายละเอียดของแนวคิดของวิธีการแก้ปัญหาเป็น 3 มิติ ประกอบด้วยด้านกว้าง ด้านยาว และความสูงหรือความลึก
ภาพร่าง 3 มิติ
เป็นรูปภาพ (Image) หรือสัญลักษณ์ (Symbol) ที่ใช้เขียนแทนขั้นตอน คำอธิบาย ข้อความ หรือคำพูด เนื่องจากการนำเสนอขั้นตอนของงานให้เข้าใจ ตรงกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องด้วยคำพูดหรือข้อความทำได้ยาก จึงมีการนำผังงานมาใช้ ซึ่งสัญลักษณ์โดยทั่วไปที่ใช้สำหรับการเขียนผังงานมีดังนี้
- สัญลักษณ์แต่ละรูปจะถูกเชื่อมต่อด้วยทิศทางการทำงาน (Direction Flow) เพื่อบอกว่าเมื่อทำงานนี้เสร็จต้องไปทำงานไหนต่อไป
- การทำงานจะต้องเริ่มต้นที่จุดเริ่มต้น (Start) และจบที่จุดสิ้นสุด (End) เท่านั้น
แผนผังการมาโรงเรียน
อาบน้ำ เมื่อนักเรียนอาบน้ำเสร็จทานข้าว ถ้าไม่ทานพ่อไปส่งที่โรงเรียนแต่ถ้าทานนักเรียนก็จะเดินไปโรงเรียน
ตัวอย่างการเขียนผังงานการลาป่วย
อธิบายผังงานลาป่วย
- เริ่มต้น – Start
- ไปทำงาน – Process
- ฉันป่วยหรือไม่ ? – Decision ถ้าไม่ป่วยก็จบเลย – False
- ใช่ ฉันป่วย – True
- กรอกใบลาป่วย – Process
- ส่งอีเมล์ให้หัวหน้า – Process
- นอนพักผ่อน – Process
- จบ – End
การถ่ายทอดความคิด เป็นการถ่ายทอดแนวคิดที่ใช้แก้ปัญหาหรือสนองความต้องการให้เป็นรูปธรรม เพื่ออธิบายและสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจ แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
การถ่ายทอดความคิดที่เป็นชิ้นงาน เป็นการอธิบายหรือสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจอย่างเป็นรูปธรรมในลักษณะของรูปร่าง รูปทรง รายละเอียดและส่วนประกอบของชิ้นงาน ซึ่งการถ่ายทอดความคิดลักษณะนี้ทำได้หลายวิธี ได้แก่ ภาพร่าง 3 มิติ ภาพฉาย แบบจำลอง และต้นแบบ
ภาพร่าง 3 มิติ เป็นภาพที่ประกอบด้วย ด้านกว้าง ด้านยาว และความสูง หรือ ความลึก ใช้สำหรับแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ของรูปร่าง รูปทรง การทำงานและกลไกภายในการเขียนภาพร่าง 3 มิติ ที่นิยมใช้มี 2 รูปแบบ ดังนี้
ตัวอย่างภาพ Oblique
ที่มา : http://www.onlinedesignteacher.com
ตัวอย่างภาพ Isometric
ดังนั้นการเขียนภาพร่าง 3 มิติ จะช่วยในการแสดงลักษณะรูปร่างและรูปทรงได้เหมือนของจริงมาก สามารถแสดงรายละเอียดได้ถึง 3 ด้าน เหมือนกับการได้เห็นชิ้นงานจริง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นการประกอบกันของชิ้นส่วนต่าง ๆ ของชิ้นงาน และสามารถทำความเข้าใจลักษณะการทำงานของชิ้นงานนั้นได้ดียิ่งขึ้น และในการร่างภาพ 3 มิติ สามารถใช้กระดาษ ไอโซเมตริกกริดช่วยในการร่างภาพได้
การร่างภาพ 3 มิติด้วยการใช้กระดาษไอโซเมตริกกริด
ภาพฉาย เป็นภาพที่แสดงรายละเอียดของแนวคิดในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการในแต่ละด้านของสิ่งที่จะสร้าง ตลอดจนมีรายละเอียดของแบบงานครบถ้วนสมบูรณ์ชัดจน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถนำไปสร้างขึ้น ตามแบบได้อย่างถูกต้อง ภาพฉายยังสามารถแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ได้ เช่น รูปร่าง ขนาด และผิวงาน ประกอบด้วยภาพด้านหน้า ด้านข้าง และภาพด้านบน แสดงขนาดด้านกว้าง ด้านยาว และความสูงหรือความลึกของชิ้นงานและหน่วยในการวัดขนาด เพื่อสามารถนำไปสร้างเป็นแบบจำลองหรือชิ้นงานของจริงได้
ในการเขียนภาพฉายส่วนใหญ่ จะเขียนหรืออ่านจากภาพไอโซเมตริก หรือ ภาพของจริง โดยการมองแต่ละด้านแล้วเขียนออกมาเป็นภาพฉาย 2 มิติ ตามภาพที่มองเห็น ซึ่งมีตำแหน่งการมองภาพดังนี้
การมองภาพในตำแหน่งต่าง ๆ
การเขียนภาพฉายจากการมองภาพ Isometric
การเขียนภาพฉายจากการมองภาพ
เป็นการออกแบบ เขียนแบบ สร้างหรือผลิตชิ้นงานต่างๆโดย ผ่านกระบวนการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในองค์ประกอบผลหรือผลิตภัณฑ์ที่มีความสบรูณ์ในตนเอง มีความสวยงาม มีประโยชน์ในการใช้สอย ราคาประหยัด และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สามารถนำมาใช้ยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นได้ทุกระดับ เช่นอาคาร ทีี่พักอาศัย โทรศัพท์ โทรทัคน์ พัดลม คู้เย็น และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อให้ดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข
การนำกระบวนการเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน สามารถช่วยให้ผู้นำไปใช้เกิดกระบวนการทำงานที่เป็นขั้นตอน ซึ่งจะช่วยให้การแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการได้ง่ายขึ้น มองเห็นการทำงานแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน ดังตารางต่อไปนี้
กระบวนการเทคโนโลยี | ผลดีต่อการทำงาน |
ขั้นที่ 1 กำหนดปัญหาหรือความต้องการ | ช่วยให้การศึกษาและการกำหนดปัญหามีความชัดเจน |
ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูล | ช่วยให้รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นในการแก้ปัญหาได้ครอบคลุม |
ขั้นที่ 3 เลือกวิธีการ | ช่วยให้ตัดสินใจเลือกแนวทางที่สามารถแก้ปัญหาได้เหมาะสม |
ขั้นที่ 4 ออกแบบและปฏิบัติการ | ช่วยให้การสร้างชิ้นงานง่ายขึ้นและลดระยะเวลาในการสร้าง เพราะมีการออกแบบภาพร่างของการทำงาน ทำให้เห็นรายละเอียดของการทำงาน |
ขั้นที่ 5 ทดสอบ | ช่วยให้ทราบข้อบกพร่องของการทำงานก่อนนำไปปฏิบัติจริง |
ขั้นที่ 6 ปรับปรุงแก้ไข | ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น |
ขั้นที่ 7 ประเมินผล | ช่วยตรวจสอบผลการทำงานว่าตรงกับปัญหาหรือความต้องการหรือไม่ |